ทีมชาติโปรตุเกส เปิดบ้านเอาชนะ ตุรกี 3-1 ตามความคาดหมาย ผ่านเข้าสู่รอบชิงตั๋วฟุตบอลโลก รอบสุดท้าย โดยจะไปพบกับ ทีมชาติมาซิโดเนียเหนือ ที่เอาชนะ ทีมชาติอิตาลี มาได้อย่างน่าเหลือเชื่อ

เกมการแข่งขันฟุตบอลโลก รอบเพลย์ออฟ รอบรองชนะเลิศ โซนยุโรป ทีมชาติโปรตุเกส รองแชมป์ของกลุ่มเอ เปิดสนาม เอสตาดิโอ โด ดราเกา  ต้อนรับการมาเยือนของ ทีมชาติตุรกี รองแชมป์ของกลุ่มจี

รายชื่อ 11 ผู้เล่นตัวจริงที่ลงสนาม

ทีมชาติโปรตุเกส ภายใต้การคุมทีมของ  แฟร์นานโด ซานโต๊ส วางแผนรับมือมาในระบบ 4-3-3 โดยมี ผู้รักษาประตู  ดีเอโก้ คาร์ลอส กองหลัง – ดีโอโก้ ดาโลต์, โชเซ่ ฟอนเต้, ดานิโล่ เปเรยร่า และ ราฟาแอล เกร์เรยโร่ กองกลาง – ชูเอา มูตินโญ่,  แบร์นาร์โด้ ซิลวา และ บรูโน่ แฟร์นันเดส กองหน้า เลือกใช้ คริสเตียโน่ โรนัลโด้, ดิโอโก้ โชต้า และ โอตาวิโอ้ คอยประสานกันในแนวรุก

ทีมชาติตุรกี ของทาง สเตฟาน คุนต์ซ กุนซือของทีม เลือกจัดทัพมาในระบบ 4-4-2 ดังนี้ ผู้รักษาประตู อูกูร์คาน ชาเคียร์ กองหลัง – โอซาน คาบัค, ซากลาร์ โซยุนชู, เมริห์ เดมิรัล และ เบอร์คาน คุตลู กองกลาง – เซกี้ เชลิค , ออร์คูน โคคูค์ , ฮาคาน ชาลาโนกลู และ เคเรม อัคตูร์โคกลู ส่วนกองหน้าจะเป็น เซนกิซ อุนแดร์ จับคู่กับทาง บูรัค ยิลมาซ คอยทำเกมล่าตาข่ายคู่ต่อสู้

เปิดเกมในครึ่งแรก แฟนบอลโปรตุเกสเกือบได้เฮตั้งแต่ยังไม่ถึงหนึ่งนาที เมื่อ ดีโอโก้ ดาโลต์ ตักบอลมาหน้ากรอบ 6 หลาให้กับ คริสเตียโน โรนัลโด้ แต่ เซกี้ เชลิค ตามมาบล็อกไว้ได้ทัน

นาทีที่ 9 โปรตุเกส ได้โอกาสอีกครั้ง เมื่อ บรูโน่ แฟร์นันเดส ดีดบอลให้กับ ดีโอโก้ โชต้า ก่อนที่จะส่งบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษให้กับ คริสเตียโน โรนัลดด้ ตวัดด้วยเท้าขวาแต่บอลเหินข้ามคานออกไป

ถัดมาอีกแค่ 2 นาที ในนาทีที่ 11 โปรตุเกส พลาดโอกาสทองไปอีกครั้งเมื่อ มีโอกาสเตะฟรีคิกจากริมเส้น โดย บรูโน่ แฟร์นันเดส ส่งบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ มาตรงตัว ดิโอโก้ โชต้า เข้าชาร์จ แต่บอลลอยข้ามคาน

นาทีที่ 15 โปรตุเกสเป็นฝ่ายได้ประตูขึ้นนำก่อน 1-0  จากการประสานของ ดิโอโก้ โชต้า ดีดบอลย้อนหลังให้ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ยิงระยะไกลด้วยเท้าซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ บอลพุ่งชนเสากระดอนไปทางขวา และเป็นทาง โอตาวิโอ้ ตามเข้าไปยิงซ้ำ แม้ อูกูร์คาน ชาเคียร์ จะพุ่งปัดไว้ได้แต่บอลปลิ้นเข้าประตูไป

ต่อมานาทีที่ 20 ตุรกี ได้ลุ้นบ้าง จากจังหวะที่ เซนกิซ อุนแดร์ ปั่นด้วยเท้าซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ และเป็นทางฝั่งของ เบอร์คาน คุตลู ที่หาจังหวะเข้ามาโขกในระยะ 6 หลา แต่บอลหลุดเสาไปเพียงนิดเดียว

นาทีที่ 25 ตุรกี ได้โอกาสอีกครั้ง เมื่อ ออร์คูน โคคูค์ ใช้ความสามารถเฉพาะตัว พาบอลหนี ทาง แบร์นาร์โด้ ซิลวา หวดบอลเข้าเสาแรก แต่ไปติดปลายมือของ ดีเอโก้ คาร์ลอส แบบเฉียดฉิว

มาถึงช่วงท้ายเกมในนาทีที่ 42 โปรตุเกส มาได้ประตูที่สอง จากจังหวะ โอตาวิโอ้ เปิดบอลมาให้ ดิโอโก้ โชต้า  โขกบอลกดลงพื้นส่งบอลเสียบเสาไกลแบบงดงาม

จบเกมครึ่งแรก โปรตุเกส นำห่าง 2-0

เริ่มในช่วงครึ่งหลัง เพียงแค่ 3 นาที โปรตุเกสเป็นฝ่ายบุกก่อน ในนาทีที่ 48 เมื่อ แบร์นาร์โด้ ซิลวา ซัดด้วยเท้าซ้ายหน้ากรอบเขตโทษ แต่ไม่พ้นเซฟของ อูกูร์คาน ชาเคียร์

นาทีที่ 51 โปรตุเกส เกือนที่ประตูที่สาม จากความผิดพลาดของผู้เล่นตุรกี เมื่อ โอซาน คาบัค เล่นบอลประมาทโดน ดิโอโก้ โชต้า ได้โอกาสฉกบอล เข้าไปดวลตัวต่อตัวกับ อูกูร์คาน ชาเคียร์ แต่ก็ถูกทาง โอซาน คาบัค รีบเข้ามาแก้ตัวด้วยการกวาดบอลทิ้งไปได้ทันเวลา

รูปเกมยังคงเป็นของทางฝั่งโปรตุเกส ที่ทำได้ดีกว่า นาทีที่ 60 ดีโอโก้ ดาโลต์ ส่งบอลเข้ามาในกรอบเขตโทษ มาถึง ดิโอโก้ โชต้า ได้จังหวะหวดบอลตามน้ำ แต่บอลไปแฉลบ โอซาน คาบัค บอลข้ามคานออกหลังไป

แต่แล้ว ในนาทีที่ 65 ตุรกี ก็สามารถยิงประตูไล่ตามมา 1-2 จากจังหวะที่ เซนกิซ อุนแดร์ เก็บบอลได้ แล้วส่งบอลคืนมาให้ บูรัค ยิลมาซ หลุดแผงกองหลังของโปรตุเกส เข้าไปแปด้วยเท้าซ้าย ผ่านตัว ดีเอโก้ คาร์ลอส เข้าประตูไป

เข้าสู่ช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90+4 โปรตุเกส ก็ทำประตูปิดเกมได้ เมื่อ ราฟาเอล เลเอา ไหลบอลมาให้ทาง แมธทิอุส นูเนส ยิงเข้าประตูไป โปรตุเกสนำ 3-1

จบเกม โปรตุเกสเอาชนะ ตุรกี ไปได้ 3-1 ผ่านเข้ารอบชิงชนะเลิศ ลุ้นตั๋วไปฟุตบอลโลก รอบสุดท้ายได้สำเร็จ