ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ เกิดเมื่อ 4 เมษายน 2003 ที่เมืองเชิร์ตซีย์ ประเทศอังกฤษ เอลเลียตต์ มีสไตส์การเล่นที่โดดเด่น มีทักษะการเล่น วิสัยทัศน์และความนิ่งที่เกินอายุของเขา เขาทำสถิติที่น่าประหลาดใจเอาไว้หลายครั้ง ลงเล่นแบบข้ามรุ่นจนเป็นเรื่องปกติ และที่สำคัญที่สุดนั่นคือความจงรักภักดีที่มีต่อลิเวอร์พูล
ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ คือเด็กหนุ่มที่ปฏิเสธ ทีมยักษ์ใหญ่ทุกทีม เพื่อเลือกที่จะมาอยู่กับ ลิเวอร์พูล เพียงทีมเดียว โดยครั้งหนึ่ง เอลเลียตต์ ปฏิเสธข้อเสนอจาก เรอัล มาดริด ด้วยเหตุผลที่เขาไม่ชอบสิ่งที่ รามอส ทำกับ ซาลาห์ เด็กหนุ่มวัย 19 ปี ที่มีหงส์แดง ลิเวอร์พูล อยู่ในใจตั้งแต่ยังเด็ก เขามี โมฮาเหม็ด ซาลาห์ และ สตีเว่น เจอร์ราร์ด เป็นนักเตะในดวงใจ เขาเชียร์ลิเวอร์พูลมาทั้งชีวิต
ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ เริ่มต้นการค้าแข้งของเขาด้วยการก้าวเข้าสู่อคาเดมีของ ควีนปาร์ก เรนเจอร์ส ก่อนที่จะย้ายไปยังอคาเดมีของ ฟูแล่ม และที่นั่น เอลเลียตต์ ได้พัฒนาฟอร์มการเล่นของเขาได้อย่างโดดเด่น เมื่อตอนเขาอายุ 8 ขวบ เอลเลียตต์ ก็ข้ามรุ่นไปติดอยู่ในทีมชุด 10 ขวบ เขายิงประตูคนเดียวถึง 9 ประตูในเกมนัดเดียว ติดทีมชุดอายุ 18 ปี ของฟูแล่มตั้งแต่เขาอายุ 14 ปี และถูกเรียกติดทีมชาติเยาวชนของทีมชาติอังกฤษ ในปี 2018
และเขาได้รับโอกาสติดทีมชุดใหญ่ของฟูแล่มในเกมนัดแรก ในปี 2018 เมื่ออายุเพียงแค่ 15 ปีเท่านั้น ด้วยการลงมาเป็นตัวสำรอง ที่ฟูแล่ม ชนะ มิลล์วอลล์ 3-1 ในเกมคาราบาว คัพ และในเกมนั้นทำให้ เอลเลียตต์ กลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของฟูแล่มที่ลงสนามให้กับทีมชุดใหญ่ และหลังจากนั้น เอลเลียตต์ ก็ได้ทำสถิติเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดตลอดกาลที่ลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีก ด้วยอายุ 16 ปี 30 วัน ในปี 2019
หลังจากนั้น เอลเลียตต์ ก็กลายเป็นนักเตะที่ได้รับความสนใจจากทีมยักษ์ใหญ่ที่ต้องการคว้าตัวเขา เอลเลียตต์ เป็นนักเตะที่มีพรสวรรค์ที่น่าประหลาดใจ เขาสามารถเล่นได้ในหลายตำแหน่ง เขามีความฉลาด และเขาเป็นนักเตะที่ผู้จัดการทีมหลายคนต้องการ ซึ่งผู้จัดการทีมทุกคนที่เคยทำงานร่วมกับ เอลเลียตต์ ต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เอลเลียตต์ จะเป็นนักเตะที่สร้างประวัติศาสตร์ให้กับวงการลูกหนังได้อีกมากมาย
ในปี 2019 ฮาร์วีย์ เอลเลียตต์ ตัดสินใจย้ายไปร่วมทีมในดวงใจของเขา นั่นก็คือ ลิเวอร์พูล และเมื่อเขาก้าวเข้ามายังถิ่นแอนฟิลด์ เอลเลียตต์ ก็สร้างสถิติขึ้นมาทันที หลังลงสนามเป็นตัวจริงในเกมที่พบกับ เอ็มเค ดอนส์ ในศึกคาราบาว เมื่อปี 2019 ซึ่งทำให้เขากลายเป็นนักเตะที่อายุน้อยที่สุดในประวัติศาสตร์ของลิเวอร์พูลที่ได้ลงสนามในฐานะ ผู้เล่นตัวจริง ด้วยอายุ 16 ปี 174 วัน
และต่อมา เอลเลียตต์ ได้ลงสนามในเกมพรีเมียร์ลีกนัดแรกด้วยการลงเป็นตัวสำรองแทนโมฮาเหม็ด ซาลาห์ ในเกมที่ชนะ เชฟฯ ยูไนเต็ด 2-0 ในปี 2020 ซึ่งในฤดูกาลแรก เอลเลียตต์ มีโอกาสลงสนามไปทั้งหมด 8 นัดในทุกรายการ
ต่อมาในฤดกาล 2020-2021 เจอร์เกน คล็อปป์ ได้มองเห็นว่า เขาควรปล่อยให้ เอลเลียตต์ ไปหาประสบการณ์กับ แบล็คเบิร์น โรเวอร์ส ด้วยสัญญายืมตัว เพื่อเพิ่มโอกาสในการลงสนามให้กับเขา และเมื่อ เอลเลียตต์ เข้าไปร่วมทีม เขาก็สามารถยึดตำแหน่งตัวจริงได้ในทันที และเขาได้ลงสนามไปทั้งหมด 41 นัด ทำได้ 7 ประตู 11 แอสซิสต์ และมีเปอร์เซ็นต์การจ่ายบอลสำเร็จเกือบ 81 เปอร์เซ็นต์
มาในฤดูกาล 2021-2022 เอลเลียตต์ กลับมายังถิ่นแอนฟิลด์อีกครั้ง ซึ่งการกลับมาจากการยืมตัวของเขานั่น เจอร์เกน คล็อปป์ ได้พูดถึงว่า มันเป็นสิ่งที่ดีมากๆ ที่เขาได้กลับมาในครั้งนี้ และ คล็อปป์ ไม่แปลกใจเลยที่หลายๆ คนพยายามที่จะพูดถึงศักยภาพที่มีอยู่ในตัวเด็กหนุ่มคนนี้
นอกจากนี้ยังมี จอร์แดน แฮนเดอร์สัน ที่ได้พูดถึง เอลเลียตต์ เอาไว้ว่า เขาคือนักเตะที่น่าอัศจรรย์ เขามองว่า เอลเลียตต์ คือนักเตะดาวรุ่งที่มีความสามารถขั้นสุดโดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับนักเตะในวัยเดียวกัน เขาทำได้อย่างยอดเยี่ยมในช่วงที่เล่นให้กับ แบล็คเบิร์น และเขากลับมาด้วยความสมบูรณ์แบบ
ในช่วง 2021-2022 ที่เอลเลียตต์ กลับมายัง ลิเวอร์พูล คล็อปป์ ส่งเขาลงสนามในทุกเกมใน 4 เกมแรก เริ่มตั้งแต่ เป็นตัวสำรอง ที่ชนะ นิริช ซิตี้ 3-0 และหลังจากนั้น เอลเลียตต์ ก็ลงสนามเป็นตัวจริง 3 นัดติดต่อกัน แต่ในเกมนัดสุดท้ายที่ เขาลงสนามพบกับ ลีดส์ ยูไนเต็ด เอลเลียตต์ ก็ต้องพบกับความโชคร้ายได้รับบาดเจ็บอย่างรุนแรง จากการสกัดบอลของ ปาสกาล สเตร๊าจ์ กองหลังของลีดส์ ยูไนเต็ด ที่ทำให้เขาข้อเท้าหลุด และต้องเข้ารับการผ่าตัด ในช่วงเดือนกันยายน 2021 และต้องพักฟื้นนานกว่า 6 เดือน แต่ในช่วงเดือนมกราคม 2020 เอลเลียตต์ ก็เริ่มกลับมาฝึกซ้อมได้แล้ว และรอเพียงเรียกความพร้อมให้สมบูรณ์ก็จะสามารถกลับมาลงสนามได้อีกครั้ง
เอลเลียตต์ เป็นนักเตะรุ่นน้องภายในทีมลิเวอร์พูล ที่เป็นที่รักของพี่ๆ ในทีมทุกคน และเป็นที่รักของแฟนบอลลิเวอร์พูล ที่รอวันที่เขาพร้อมที่จะกลับมาลงสนามให้กับลิเวอร์พูลอีกครั้ง