เซสก์ ฟาเบรกัส เขามีชื่อเต็มว่า ฟรันเซสก์ ฟาเบรกัส ซูเลร์ ปัจจุบันเล่นในตำแหน่งกองกลางให้กับทีมโมนาโก เขาเกิดเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 1987 เขาเกิดในย่านอาเรญส์ดามาร์ ในประเทศสเปน เขาอยู่ในครอบครัวที่มีพ่อเป็นช่างก่อสร้าง และแม่ของเขาทำงานเป็นพนักงานเสิร์ฟในสนามคัมป์นู ของสโมสรบาร์เซโลนา แต่หลังจากนั้นพ่อแม่ของเขาก็ได้แยกทางกันไป และฟาเบรกัส ก็อยู่ในความดูแลของผู้เป็นพ่อ ฟาเบรกัส เป็นเด็กที่มีความชื่นชอบกีฬาฟุตบอลเป็นอย่างมาก และมีความฝันที่จะเป็นนักฟุตบอลอาชีพ และเขาก็ได้รับการสนับสนุนจากพ่อของเขาเป็นอย่างดี

ในปี 1995 พ่อของเขาให้เงินจากการทำงานส่งให้เขาได้เข้าเรียนในอคาเดมี่ของสโมสรมาตาโร มีฟุตบอลในท้องถิ่น และด้วยการเล่นที่โดดเด่น และมีฝีเท้าที่เก่งกาจทำให้ในอีก 2 ปีต่อมา เขาก็ถูกทาบทามให้ไปเล่นในทีมเยาวชนของสโมสรบาร์เซโลนา ในตอนที่เขามีอายุเพียงแค่ 10 ขวบเท่านั้น โดยหลังจากที่เข้าร่วมในทีมเยาวชนของบาร์เซโลนา เขามักจะได้รับหน้าที่ในการเล่นในตำแหน่งกองกลางตัวรับ แต่เขาก็ยังสามารถหาจังหวะขึ้นไปประตูได้เป็นจำนวนมาก โดยผลงานของเขาคือในหนึ่งฤดูกาลเขาสามารถทำประตูได้ถึง 30 ประตู และด้วยความสามารถของเขานั้นทำให้ ฟาเบรกัสเป็นที่ชื่นชอบของเป๊ป กวาร์ดิโอล่า ผู้จัดการทีมชุดใหญ่ของบาร์เซโลนาในตอนนั้นเป็นอย่างมาก

ในปี 2003 ฟาเบรกัสในวัย 16 ปี ย้ายมาเล่นให้กับอาร์เซนอล ทีมฟุตบอลในประเทศอังกฤษ เขาได้เซ็นสัญญาเป็นฉบับแรกในชีวิตโดยไม่มีค่าตัว และในตอนแรกของการเข้าสู่ทีมอาร์เซนอล เขายังไม่มีโอกาสในการลงสนามเป็นตัวจริงได้ เนื่องจากในตอนนั้นอาร์เซนอล เต็มไปด้วยนักเตะระดับแนวหน้าที่เล่นอยู่ในตำแหน่งเดียวกันกับเขาอยู่ จนมาถึงในเดือนตุลาคม 2003 เขาก็มีโอกาสลงสนามเป็นครั้งแรก ในเกมลีก คัพ ที่พบกับร็อทเทอร์แฮม ยูไนเต็ด เขาได้ลงสนามเป็นตัวจริงเป็นครั้งแรก และเขาก็เป็นนักเตะที่มีอายุน้อยที่สุดในสนามอีกด้วย ด้วยวัย 16 ปี 177 วัน

หลังจากนั้น เขากลายเป็นนักเตะที่มีอายุน้อยที่สุดที่สามารถทำประตูในของสโมสร ในเกมที่เอาชนะวูล์ฟเวอร์แฮมป์ตันแวนเดอร์เรอร์ส ด้วยสกอร์ 5-1 นอกจากนี้ในเกมนั้นเขาก็สามารถพิสูจน์ตัวเองให้แฟนบอลได้เห็นว่าเขาเป็นนักเตะที่มีความสามารถเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการจ่ายบอลที่มีความแม่นยำ มีไหวพริบในการเล่น มีความนิ่งเกินวัย ทำให้เขาได้รับฉายาว่า วันเดอร์คิดส์ที่เข้ามาสร้างมิติใหม่ๆ ให้กับแผงกองกลางให้กับทีมอาร์เซนอลในตอนนั้น

ในฤดูกาล 2004-2005 เป็นฤดูกาลแจ้งเกิดของเขาอย่างแท้จริง เขาได้รับสัญญาการเป็นนักฟุตบอลอาชีพกับอาร์เซนอลอย่างเป็นทางการ และให้ขึ้นมายึดตำแหน่งตัวจริงในทีมชุดใหญ่อย่างต่อเนื่อง และทุกครั้งที่เขาได้ลงสนาม เขาก็สร้างความประทับใจให้กับแฟนบอลและสื่อเป็นอย่างมาก และเขาก็ก้าวขึ้นมาเป็นกองกลางที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดในเวลานั้น

ในฤดูกาล2005-2006 เขาสามารถช่วยทีมคว้าแชมป์เอฟเอ คัพมาได้สำเร็จ และหลังจากนั้น ปาทริก วีเยรา กัปตันทีมของอาร์เซนอลในตอนนั้น ได้ย้ายออกจากทีมไป ทำให้เขาได้ขอเปลี่ยนหมายเลขเสื้อจาก 15 มาเป็นหมายเลข 4 เนื่องจากมันเป็นวันเกิดของเขา เขาได้รับโอกาสในการพิสูจน์ตัวเองมากขึ้น แต่เขาถูกเปลี่ยนให้มาเล่นแทนในตำแหน่งของ วีเยรา และเขาก็ยังเล่นในรูปแบบของตัวเองด้วยการสร้างสรรค์เกมรุกให้กับทีม แต่ก็ยังสามารถกลับมาอุดช่องว่างในเกมรับได้

หลังจากนั้นเขาก็ได้รับข้อเสนอจาก เรอัล มาดริด แต่ก็โดนทางอาร์เซนอลปฏิเสธไป มาในเดือนกันยายน 2006 อาร์เซนอลยื่นข้อเสนอเซ็นสัญญาฉบับใหม่ให้กับเขาด้วยระยะเวลา 5 ปี และเขาก็ตกลงเซ็นสัญญากับทางอาร์เซนอลต่อไป

ในฤดูกาล 2006-2007 เขายังคงสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ถึงแม้ว่าทีมต้นสังกัดของเขาจะไม่สามารถสร้างผลงานได้ดีมากนัก และหลังจบฤดูกาล ฟาเบรกัส ก็ได้รับรางวัลส่วนตัวมากมาย ไม่ว่าจะเป็นรางวัลโกลเด้นบอย และมีชื่อในทีมพรีเมียร์ลีกในเดือนมกราคม 2007 และยังได้รับการเสนอชื่อชิงรางวัลนักเตะดาวรุ่งยอดเยี่ยมและนักฟุตบอลแห่งปีอีกด้วย

ในฤดูกาล 2007-2008 เขาขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญให้กับทีม ภายหลังจากการจากไปของ เธียร์รี่ อองรี ที่ย้ายไปร่วมทีมกับบาร์เซโลนา

ในฤดูกาล 20008-2009 เขาได้รับบาดเจ็บที่หัวเข่า ทำให้พลาดโอกาสในการลงสนามอยู่เป็นเวลา 4 เดือน และหลังจากที่หายจากการบาดเจ็บ เขาก็กลายมาเป็นกำลังสำคัญให้กับอาร์เซนอลมาโดยตลอด และเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยอาร์เซนอลประสบความสำเร็จอย่างมากมาย

มาถึงในฤดูกาล 2011-2012 ฟาเบรกัส ย้ายไปร่วมทีมกับบาร์เซโลนา ด้วยค่าตัว 35 ล้านปอนด์ โดยมีระยะเวลา 5 ปี เขาเล่นให้กับบาร์เซโลนาอยู่จนถึง ปี 2014 โดยลงสนามไปทั้งหมด 96 นัด ทำไป 28 ประตู

ฤดูกาล 2014-2015 เขาย้ายมาร่วมทีมกับเชลซี ด้วยค่าตัว 33 ล้านปอนด์ โดยมีระยะเวลา 5 ปี เขาเป็นส่วนสำคัญในการพาทีมคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีก 2 สมัย แชมป์เอฟเอ คัพ และแชมป์ลีก คัพ เขายังคงสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยม ด้วยการทำสถิติสามารถทำแอสซิสต์ครบ 100 แอสซิสต์ในพรีเมียร์ลีกได้เร็วที่สุดด้วยการทำภายใน 293 นัดในการลงสนาม โดยเขาเล่นให้กับอาร์เซนอลจนถึงปี 2019 โดยลงสนามไปทั้งหมด 138 นัด ทำไป 15 ประตู

ในปี 2019 ฟารเบกัส ในวัย 32 ปี ย้ายไปร่วมทีมกับสโมสรโมนาโก ทีมฟุตบอลในศึกลีกเอิง ฝรั่งเศส ด้วยค่าตัว 10 ล้านปอนด์ โดยมีสัญญาจนถึงปี 2022 โดยในช่วงแรกเขายังมีโอกาสในการลงสนามอย่างต่อเนื่อง แต่หลังจากการเข้ามาของ นิโก้ โควิช เขาก็ถูกให้นั่งอยู่ในม้านั่งสำรองเสียส่วนใหญ่

สำหรับผลงานในทีมชาติสเปน เขาเริ่มเล่นให้กับทีมชาติตั้งแต่ในปี 2002 ในรุ่นอายุไม่เกิน 16 ปี,17ปี ,20ปี และ21ปี ตามลำดับ และในปี 2006 เขามีชื่ออยู่ในทีมชุดใหญ่ของทีมชาติสเปนเป็นครั้งแรก และได้ลงเล่นในรายการฟุตบอลโลก 2006,ฟุตบอลยูโร 2008,คอนเฟเดอเรชันส์คัพ 2009 ,ฟุตบอลโลก 2010,ฟุตบอลยูโร 2012